ประกาศกระทรวงสาธารณสุข

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 455 (พ.ศ. 2568) 
 
การตรวจเชื้อจุลินทรีย์ สำหรับ แยม เยลลี่ และมาร์มาเลด
เริ่มบังคับใช้  9 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป
 
เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานอาหารสากลของโคเด็กซ์
 
ตรวจเชื้อ Coliforms พบไม่เกิน 3 MPN/กรัม 
ตรวจเชื้อราและยีสต์ พบไม่เกิน  100 CFUs/กรัม   
ตรวจเชื้อ Staphylococcus aureus พบไม่เกิน 100 CFUs/กรัม 
ตรวจไม่พบ เชื้อ Salmonella spp. ในตัวอย่างทดสอบ 25 กรัม
 

เกณฑ์สำคัญที่ผู้ควบคุมการผลิตอาหารต่างๆ ต้องทราบ

มาตรฐานอาหารที่มีสารปนเปื้อน ประกาศฯ ฉบับที่ 414 พ.ศ. 2563 
    • ตะกั่ว (Lead, Pb): ไม่เกิน 1 มิลลิกรัม ต่ออาหาร 1 กิโลกรัม.
    • ปรอท (Mercury, Hg): ไม่เกิน 0.02 มิลลิกรัม ต่ออาหาร 1 กิโลกรัม.
    • ดีบุก (Tin, Sn): ไม่เกิน 250 มิลลิกรัม ต่ออาหาร 1 กิโลกรัม.
  • สารพิษจากเชื้อรา (Mycotoxins):
    • อะฟลาท็อกซินทั้งหมด (Total Aflatoxins): ไม่เกิน 20 ไมโครกรัม ต่ออาหาร 1 กิโลกรัม.
  • สารอื่นๆ:
    • สารหนูทั้งหมด (Total Arsenic, As): ไม่เกิน 2 มิลลิกรัม ต่ออาหาร 1 กิโลกรัม. 
 
อาหารที่มีสารพิษตกค้าง ประกาศฯ ฉบับที่ 460 พ.ศ. 2568
มีการกำหนดค่าสูงสุดของสารตกค้าง (Maximum Residue Limits - MRLs) สำหรับสารเคมีต่างๆ และผักผลไม้ที่มักพบสารตกค้างเกินมาตรฐาน เช่น พริก, ส้ม, ฝรั่ง, แก้วมังกร, มะละกอ, กะเพรา, ถั่วฝักยาว, คะน้า, มะม่วงน้ำดอกไม้, ผักกาดขาวปลี เป็นกลุ่มที่ถูกจับตาเป็นพิเศษ
 
 สารตกค้างที่พบโดยทั่วไป:
  • สารกลุ่ม ออร์แกโนคลอรีน (Organochlorine)
  • สารกลุ่ม ออร์แกโนฟอสเฟต (Organophosphate)
  • สารกลุ่ม คาร์บาเมท (Carbamate)
  • สารกลุ่ม ไพรีทรอยด์ (Pyrethroid) 

ใหม่ ครอบคลุมวัตถุอันตรายทางการเกษตร 88 รายการ

ใหม่ ปรับการเขียนรูปแบบชนิดของอาหารให้สอดคล้องกับ มกษ. 9045-1-2568

ประกาศนี้ ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เป็นต้นไป ให้สอดคล้องกับวันบังคับใช้ มาตรฐานสินค้าเกษตร*

• *มาตรฐานสินค้าเกษตร : สารพิษตกค้าง : ปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุด ตามพระราชบัญญัติ มาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. 2551 (มกษ. 9002-2568)

• *มาตรฐานสินค้าเกษตร : สารพิษตกค้าง : ปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุดที่ปนเปื้อนจากสาเหตุที่ไม่อาจ หลีกเลี่ยงได้ ตามพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. 2551 (มกษ. 9003-2568)

 
น้ำบริโภคในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท ประกาศฯ ฉบับที่ 462 พ.ศ. 2568

สาระสำคัญของประกาศฯ ฉบับที่ 462 นี้ ครอบคลุมหลายส่วนหลักๆ ดังนี้:

1. คำนิยาม: กำหนดนิยามของ "น้ำบริโภคในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท" (Drinking water in sealed containers) ซึ่งหมายถึง น้ำที่บรรจุในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท พร้อมจำหน่ายเพื่อการบริโภค ไม่รวมถึง น้ำแร่ธรรมชาติ และเครื่องดื่มอื่น ๆ

2. คุณภาพหรือมาตรฐาน (Quality and Standard):กำหนดให้มีมาตรฐานด้าน จุลินทรีย์ (Microbiological Standard) และ สารปนเปื้อน (Contaminant Standard) ที่ต้องเป็นไปตามที่กำหนดท้ายประกาศฯ

มีการ ยกเลิก การอนุญาตให้เติม ฟลูออไรด์ และการ ปรับค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) ในน้ำบริโภคในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท

3. หลักเกณฑ์และวิธีการผลิต (GMP - Good Manufacturing Practice):

กำหนดให้สถานที่ผลิตต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ดีในการผลิต (GMP) ตามที่กำหนดท้ายประกาศฯ โดยมีการปรับปรุงให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลและปัจจุบัน

4. การแสดงฉลาก (Labeling):

ข้อความที่แสดงบนฉลากต้องเป็นไปตามที่กำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องแสดงเลขสารบบอาหาร (อย.)

5. บทเฉพาะกาล (Transitional Provisions):

กำหนดระยะเวลาให้ผู้ประกอบการปรับตัวให้เป็นไปตามประกาศฯ ใหม่ เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตอยู่แล้วก่อนวันที่ประกาศฯ ใช้บังคับ ต้องปรับปรุงให้เป็นไปตามประกาศฯ ใหม่ภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ประกาศฯ ใช้บังคับ (ถึงวันที่ 26 พฤษภาคม 2568)

น้ำแข็งระกาศฯ ฉบับที่ 463 พ.ศ. 2568

สาระสำคัญ

  1. การปรับปรุงข้อกำหนดคุณภาพและมาตรฐาน:กำหนดเกณฑ์คุณภาพของน้ำแข็งให้มีความปลอดภัยและเหมาะสมกับการบริโภคมากขึ้น โดยควบคุมทั้ง คุณสมบัติทางกายภาพ เคมี และจุลินทรีย์ (เช่น แบคทีเรียที่ก่อโรค)

  2. การแสดงฉลากและข้อความ: กำหนดให้มีการแสดงข้อความ "น้ำแข็งใช้รับประทาน" หรือ "น้ำแข็งใช้รับประทานได้" บนภาชนะบรรจุน้ำแข็ง (ถุง หรือบรรจุภัณฑ์) อย่างชัดเจน

  3. ความเข้มงวดของแหล่งผลิต: ผู้ผลิตน้ำแข็งต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่ดีในการผลิตอาหาร (GMP) ที่เข้มงวดขึ้น เพื่อให้กระบวนการผลิตสะอาด ปลอดภัย และป้องกันการปนเปื้อน

น้ำแร่ธรรมชาติ (ฉบับที่ 2) ประกาศฯ ฉบับที่ 464 พ.ศ. 2568
1. คำนิยาม (Definition)

"น้ำแร่ธรรมชาติ" หมายถึง:

  • น้ำที่ได้จากแหล่งน้ำใต้ดิน ที่มีการอนุรักษ์อย่างดี โดยต้องเป็นแหล่งเดียวเท่านั้น
  • มีคุณลักษณะเฉพาะ ในด้านความบริสุทธิ์ขององค์ประกอบทางเคมี และอุณหภูมิที่คงที่ ณ แหล่งกำเนิด
  • เป็นน้ำที่ไม่ได้ผ่านการเปลี่ยนแปลง หรือการปรับปรุงทางเคมี (ยกเว้นที่ประกาศกำหนด)
  • มีปริมาณแร่ธาตุที่จำกัด (Total Dissolved Solids: TDS) โดยต้องมีค่า ไม่น้อยกว่า 50 มิลลิกรัมต่อลิตร (mg/L)
 

2. การเปลี่ยนแปลงและการปรับปรุง (Permissible Treatments)

น้ำแร่ธรรมชาติ ต้องไม่ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยวิธีอื่นนอกเหนือจากที่กำหนด และอนุญาตให้มีการเปลี่ยนแปลง/ปรับปรุงได้ในกรณีดังต่อไปนี้เท่านั้น:

  • การแยกองค์ประกอบที่ไม่คงที่ (เช่น สารประกอบของเหล็กและกำมะถัน) โดยใช้วิธีการเติมอากาศ (Aeration) หรือการกรอง
  • การทำให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่มีอยู่เดิมแยกออกจากน้ำ หรือการเติมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มเติม

3. คุณภาพหรือมาตรฐาน (Quality and Standard)

น้ำแร่ธรรมชาติที่บรรจุภาชนะพร้อมจำหน่าย ต้องมีคุณภาพและมาตรฐาน ตามที่กำหนดไว้ในประกาศ โดยเน้นย้ำถึง:

  • ความบริสุทธิ์ทางจุลชีววิทยา (Microbiological Purity):
    • ต้องไม่มีจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรค.
    • ต้องมีจำนวนจุลินทรีย์ทั้งหมด (Total Plate Count) ณ แหล่งกำเนิด และในผลิตภัณฑ์บรรจุเสร็จ ตามที่กำหนด.
  • ปริมาณสารเคมีและแร่ธาตุ (Chemical and Mineral Content):
    • ต้องมีปริมาณแร่ธาตุรวม (TDS) ไม่น้อยกว่า 50 mg/L
    • ต้องมีปริมาณสารเคมีและสารพิษบางชนิด ไม่เกิน ค่าสูงสุดที่กำหนด (เช่น สารหนู, ตะกั่ว, ไนเตรท,ไนไตรท์) เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค

4. การแสดงฉลาก (Labeling Requirements)

การแสดงฉลากของน้ำแร่ธรรมชาติ ต้องมีความชัดเจนและไม่ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด ในสาระสำคัญ เช่น:

  • ชื่ออาหาร: ต้องระบุว่า "น้ำแร่ธรรมชาติ"
  • ส่วนประกอบ: ต้องแสดงปริมาณแร่ธาตุหลัก (ที่เกิน 10 mg/L) และแร่ธาตุรองบางชนิดที่สำคัญ
  • แหล่งกำเนิด: ต้องระบุชื่อแหล่งกำเนิด
  • การปรับปรุง (ถ้ามี): หากมีการปรับปรุง CO_2 ต้องระบุประเภทของน้ำแร่ธรรมชาติ ดังนี้:
    • "น้ำแร่ธรรมชาติที่มีก๊าซในแหล่งกำเนิด" (Natural Carbonation)
    • "น้ำแร่ธรรมชาติที่ก๊าซถูกแยกออกและนำกลับมาเติมใหม่" (Reinjected Carbonation)
    • "น้ำแร่ธรรมชาติที่เติมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์" (Added Carbon Dioxide)
เครื่องดื่มในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท (ฉบับที่ 3) ประกาศฯ ฉบับที่ 465 พ.ศ. 2568

1.ขอบเขตของเครื่องดื่มที่ครอบคลุม เครื่องดื่มทุกชนิดที่บรรจุในภาชนะที่ปิดสนิท เช่น:

  • น้ำบริโภค (Drinking Water)
  • น้ำแร่ธรรมชาติ (Natural Mineral Water)
  • น้ำโซดา (Soda Water)
  • น้ำแข็งที่บริโภคได้ (Edible Ice)
  • น้ำผลไม้ หรือ น้ำพืชผัก (Fruit or Vegetable Juices)
  • เครื่องดื่มที่ทำจากพืช เช่น ชา กาแฟ นมถั่วเหลือง
  • เครื่องดื่มอื่น ๆ ที่ไม่ใช่แอลกอฮอล์ เช่น น้ำหวาน น้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง

2. คุณภาพหรือมาตรฐานที่สำคัญ

มีการกำหนดมาตรฐานด้านความปลอดภัยและคุณภาพของเครื่องดื่ม รวมถึง:

จุลินทรีย์ก่อโรค ต้องไม่มีการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น Clostridium perfringens, Salmonella, Staphylococcus aureus และอื่น ๆ

สารปนเปื้อน ต้องไม่เกินปริมาณสูงสุดที่กำหนด เช่น สารหนู As, ตะกั่ว Pb , แคดเมียม Cd, ปรอท Hg และอื่น ๆ

วัตถุเจือปนอาหาร ต้องเป็นไปตามบัญชีรายชื่อและปริมาณที่อนุญาตให้ใช้ในอาหารตามประกาศของกระทรวงฯเท่านั้น

สุขลักษณะ ต้องมีสุขลักษณะที่ดีตามมาตรฐานการผลิตอาหาร(Good Manufacturing Practice: GMP)

3. ข้อกำหนดการแสดงฉลาก

ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าต้องแสดงข้อมูลบนฉลากอย่างถูกต้องและครบถ้วน ดังนี้:

  • ชื่ออาหาร: ชื่อเครื่องดื่มที่แท้จริง
  • ชื่อและที่ตั้ง: ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิต/ผู้แบ่งบรรจุ หรือผู้นำเข้า
  • ปริมาณสุทธิ: แสดงปริมาตรของเครื่องดื่มในภาชนะบรรจุ
  • ส่วนประกอบสำคัญ: แสดงส่วนประกอบเรียงตามลำดับปริมาณจากมากไปน้อย
  • วันเดือนปี: แสดง วันที่ผลิต หรือ วันที่ควรบริโภคก่อน หรือ วันหมดอายุ
  • ข้อมูลสำหรับผู้แพ้อาหาร: ถ้ามี
  • ข้อความคำเตือน (ถ้ามี): เช่น เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูง, มีวัตถุให้ความหวานแทนน้ำตาล

4. การบังคับใช้

ประกาศนี้จะมีผลบังคับใช้ นับแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา (11 ธ.ค. 2568)

  
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 462 พ.ศ. 2568 เรื่อง #น้ำบริโภคในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท
.
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 463 พ.ศ. 2568 เรื่อง #น้ำแข็ง
.
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 464 พ.ศ. 2568 เรื่อง #น้ำแร่ธรรมชาติ (ฉบับที่ 2)
.
ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 465 พ.ศ. 2568 เรื่อง #เครื่องดื่มในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท (ฉบับที่ 3)
.
Visitors: 190,929